
จิงจูฉ่าย ถูกนำมาจากปรเทศจีน คาดว่าจากทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ มณฑลกุ้ยโจว(Guizhou) เป็นที่รู้จักกันดี ในหมู่ช่างตีตะกั่วที่รับจ้างทำกระดาษเงินและกระดาษทอง (กระดาษเงินกระดาษทอง "กงเต็ก") ไม่ใช่จากช่างทองแถวเยาวราช 
ซึ่งเป็นสมุนไพรที่เชื่อกันว่าฟอกโลหิตขับสารพิษใช้ีรักษาโรคได้หลายประเภท (เขาว่ากันอย่างนั้น)
ชาว จีนใช้สมุนไพรที่เรียกว่า wormwood หรือ mugwort มานานกว่า 4-5,000ปีแล้ว หลักฐาน จาก บันทึกประวัติศาสตร์การแพทย์ ที่สำคัญคือไม่มีผลกระทบข้างเคียงต่อผู้ใช้มิหนำซ้ำชาวจีนยังนำมา ประกอบ อาหารนานาชนิด. จากการค้นคว้า เป็นพืชผักสวนครัวที่ โปรดปรานของ ทั้งชาวเกาหลี, ชาวญี่ปุ่น และชาวจีน จึงยิ่งทำให้เกิดความมั่นใจ และแน่ใจ ถึง ความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค
   จิงจูฉ่าย ชื่อฝรั่งคือ white mugwort ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Artemisia Lactiflora'Guizhou' และ
 Artemisia Annua หรืออาจะเปน Artemisia Agrgyi (โกฐจุฬาลัมพาแบบของจีน) หรือ Artemisia Princeceps (โกฐจุฬาลัมพาแบบของญี่ปุ่น เรียกกันว่า Yomogi) ( คลิกเพื่อดูรูป) 
ซึ่ง มีขึ้้นอยู่ทั่วไปในโลกแต่ลักษณะอาจจะแตกต่างกัน ไปบ้างเล็กน้อยขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม ต้องขอเน้นเรื่อง ชื่อวิทยาศาสตร์ Artemisia,ซึ่งมีควายสำคัญมาก ต่อที่มาที่ไปของสารหรือตัวยาที่รักษาโรคมะเร็ง แล เพื่อ จะได้เห็นภาพรวมๆ ว่าอันที่จริงยังมีพี่ น้องของ คุณ"จิงจูฉ่าย"อยู่อีกดังเช่นที่กล่าวมาแล้ว เราไม่มีทางทราบ ได้ ถ้าไม่รู้จักชื่อวิทยาศาสตร์ ประกอบกับความเข้าใจเล็กน้อยเราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ ได้มากมาย
ยา จีนโบราณนำ ใบและดอกมาใช้ในการรักษาโรคหอบหืดโรคมาลาเรียตับอักเสบและการอักเสบเช่น เดียวกับการติดเชื้อราแบคทีเรียและไวรัส ใบได้ถูกนำมาใช้ในการรักษาวัณโรค อาการประจำเดือนและแผลเปื่อยและ เคี้ยวเพื่อบรรเทาอาการไอ โกฐจุฬาลัมพาถูกนำมาใช้ในแบบดั้งเดิมยาบำบัด จีนMoxibustionเพื่อช่วยให้ความร้อนในพื้นที่ได้รับการปฏิบัติในการฝังเข็ม
   จาก
หลักฐานการแพทย์ที่ค้นพบ จากสุสาน 
 Mawangdui (King Ma's Mound)1971-1973 คือบันทึก สูตรยา 52สูตร รวมทั้งบันทึก การวินิฉัยอาการป่วยอีก 100 รายการ อายุ 2,700ปี จาก 1ใน52 สูตรคือยารักษาโรคมาลาเรีย โดยการใช้สมุนไพร mugwort/wormwood ซึ่งก็คือ สมุนไพร ต้นจิงจูฉ่าย หรือ ต้นโกฐจุฬาลัมพา ที่เรารู้จักกันในประเทศไทย ในก่อนหน้านั้นหลายปีฝรั่งกำลังค้นคว้าหาตัวยาบำบัดโรคมาลาเรียซึ่งคร่า ชีวิตมนุษย์ปีละล้านคน และแล้วนักวิจัยของประเทศจีน 
Prof, Tu youyou 
ได้ ทำการค้นคว้าและสกัดสาร ชื่อ สารชิงเฮาซู(qinghaosu)หรือ สารอาร์เทแอนนิวอิน (arteannuin) หรือสารอาร์เทมิซินิน (artemisinin )สารนี้แสดงฤทธิ์ต้านมาลาเรีย ชนิดฟัลชิปารุม (Plasmodium falciparum)และชนิดไวแวกซ์(Plasomdium vivax)โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ ดื้อยา ปัจจุบันสารชนิดนี้กับอนุพันธุ์กึ่งเคมีสังเคราะห์ของสารชนิดนี้ถูกนำมาใช้ เป็นยา แก้ไข้จับสั่นอีก
ข่าวการค้นพบสาร หรือ ตัวยารักษาโรคดังกล่าวใช้เวลาร่วม 7ปี ผลถูกตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ ของจีนในปี 1979 เข้าถึง สังคมแพทย์ ในสหรัฐอเมริกา แต่ปัญหาทางการเมืองและผลประโยชน์ ทำโห้เกิดความล่าช้า จนถึงประมาณ 1990จึงได้เกิดการค้นคว้าวิจัยและผลิตออกมาเป็นยารักษา โรคมาลาเรีย เมื่อต้นทศวรรตของปี คศ 2,000 WHO ได้รับรองประสิทธิภาพของยาตัวนี้ สำหรับมาลาเรียต่อมาปี คศ 2006 WHO ขอร้องให้โรงงานทั่วโลกหยุดผลิตตัวยานี้เพราะเกรงว่าเชื้อมาลาเรียจะดื้อยา แต่ให้ใช้เเป็นสัด ส่วนหรือตัวประกอบที่เรียกว่า Artemisinin Combination Therapies (ACTs)
   update 12/15/12
   สารชิงเฮาซู(qinghaosu) หรือ สารอาร์เทแอนนิวอิน (arteannuin) หรือสารอาร์เทมิซินิน (artemisinin )ที่สกัดมาจาก wormwood, mugwort หรือ โกฐจุฬา ก็ยังไม่ทราบแน่นอนว่าชนิดใดมีหรือไม่มีสารดังกล่าว แต่ก็ไม่สำคัญเพราะ พืชสมุนไพร ในกลุ่มนี้มีสารดังกล่าวเหมือนกัน (การยืนยันว่าโกฐจุฬา ไทย A. annua และ โกฐจุฬา จีน A. agryi รักษามะเร็งได้)![]()
   คง จะคุ้นเคยกับสารอาร์เทมิซินิน(artemisinin ) กันบ้างแล้ว, อาร์เทมิซินิน เหมือน gift from God และได้พิสูจน์ผลงานรักษาโรคได้หลายประเภท ยังปราบ มาลาเรีย จนอยูหมัด ทำให้นักวิทยาศาสตร์ ตื่นเต้นต่อผลของสารตัวนี้
. (A.annul L นำเอาข้อความรายระเอียดจาก กรมส่งเสริมการเกษตร มาให้อ่านกัน)
   เป็น ที่ทราบกันดีว่า มาลาเรีย ต้องใช้ธาตุเหล็กในการขยายพันธุ์ คล้ายๆกับเซลล์ของมะเร็ง นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ ให้ความสนใจต่อจุดนี้มาก มีการค้นคว้า, วิจิย และทดรองรักษาสุนัข ที่เป็นโรคมะเร็งในกระดูก ขนาดหนักถึงกับเดินไม่ได้ ให้หายได้ภายใน 5วัน (คลิก อ่านข่าว)![]()
update12/26/12
สรุป: จากการค้นคว้าหาข้อความเกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็งด้วยตนเองด้วยสมุนไพร"จิง จูฉ่าย"หรือ"โกฐจุฬาลัมพา" มีความเป็นไปได้สูง(ถ้าไม่นับพยาน) แต่หากว่านับพยาน และคำบอกเล่าของเพื่อนๆด้วยแล้ว ต้องบอกว่ารักษาได้จริงๆ แหละที่สำคัญที่สุดคือได้ค้นพบ ชื่อและแหล่งกำเนิดของจิงจูฉ่ายดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น(ประกอบลิ้งค์ภาพ) อนึ่งสมุนไพรที่ถูกบันทึกไว้นั้นไม่มีชื่อเรียกมักจะเรียกตามลักษณะของ ต้,ดอกหรือใบ ในกรณีที่ค้นพบในMawangdui มีสมุนไพรแห้งคือโกฐจุฬาฯให้เห็น และประกอบกับตำรายาโบราณของจีนตอนใต้ได้กล่าวถึงการใช้สมุนไพรประเภทโกฐ จุฬาฯ หลายชนิดทดแทนกันได้ จึงคาดว่าจิงจูฉ่ายคงจะมีส่วนสำคัญดังที่เคยเห็นการกล่าวถึงสมุนไพร"สูตร กุ้ยโจว" ที่มีโกฐจุฬาฯรวมอยู่ด้วยในนั้น คงจะเป็นอื่นไปไม่ได้.
การ ใช้สมุนไพรเหล่านี้ยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับในสังคมการแพทย์ แต่ได้มีการใช้สารสกัด "สารอาร์เทมิซินิน" นี้รักษาโรคมะเร็งแล้วอย่างมีประสิทธิภาพ ดังที่เห็นในTownsend's letter.
   เชื้อ มาลาเรียมีความคล้ายคลึงกับเซลล์มะเร็งมากและได้มีบันทึกไว้นับ พันปีถึงวิธีรักษาโรคมาลาเรียด้วยด้วยสมุนไพรนี้ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า เป็นสารอาร์เทมิซินินและในบันทึกการแพทย์จีนได้กล่าวถึงสมุนไพร Artemisia อีกสองสายพันธุ์(ตระกูลเดียวกันกับจิงจูฉ่ายและโกฐจุฬาลัมพา)ซึ่งใช้รักษา โรคมาลาเรียได้เช่นกันแต่สองสายพันธุ์นั้นไม่ปรากฎว่ามีสาร อาร์เทมิซินินเลยจึงเป็นสาเหตุให้นักวิจัยสรุปว่าคงต้องมีสารอื่นๆในสมุนไพร อีกที่ทำหน้าที่กำจัดเชื้อจะเป็นการทำงานโดยอิสระหรือเป็นองค์ประกอบก็ยัง ไม่ชัด ที่แน่นอน คือมันมีฤทธิกำจัดเชื้อมาลาเรียและเซลล์มะเร็งได้อย่างแน่ชัดและเด็ดขาด
   
   Last updated:01/20/13
   ที่มา : http://ttiitn.com/cancer/intr.html

| หน้าที่เข้าชม | 264,235 ครั้ง | 
| ผู้ชมทั้งหมด | 149,102 ครั้ง | 
| เปิดร้าน | 30 ม.ค. 2556 | 
| ร้านค้าอัพเดท | 4 พ.ย. 2568 |